BEYOND OUR SUCCESS AWARDS 2019

เมื่อมีคนทำได้ เราจึงมั่นใจ ในระบบ MGM มากยิ่งขึ้น
เริ่ม สนใจธุรกิจ MGM เมื่อปลายปี 2553 หลังเห็น
เฮียศรีกรุงโชว์รายได้ของสมาชิกที่มีค่าสายงานเกิน
15,000 บาท พบว่าแค่ปีเดียว มีสมาชิกบางคนมีค่าสายงาน
สูงถึง 50,000 บาท/เดือน เราจึงเริ่มสนใจ และเริ่มเข้าสู่
ระบบ MGM เมื่อต้นปี 2554
"เมื่อมีคนทำได้ เราจึงมั่นใจในระบบ MGM มากยิ่งขึ้น"
เราสองคนเลยเข้ามาเรียนรู้อย่างจริงจัง พบว่าระบบ MGM
เป็นระบบที่ดี เป็นระบบที่ช่วยผ่อนแรงในระยะยาว
ถ้าสร้างทีมไว้มากพอ ก็ยังมีค่าสายงานถึงแม้ไม่ได้ขายปลีก
เองก็ตาม เป็นรายได้แบบ Passive Income เพราะไม่บังคับ
ยอดขาย ตำแหน่งขึ้นแล้วไม่มีลง เป็นธุรกิจในฝันเลย
ตอนนั้นงานประจำดี เพราะเป็นงานที่มั่นคง การันตีจายเงิน
ทุกเดือน เราทั้งสองทำงานในบริษัทต่างชาติ มีความมั่นคงสูง
แต่ต้องทำงานแข่งกับเวลา

ถ้าอยากจะมีรายได้เยอะ ก็ต้องผลักดันตัวเองให้มีตำแหน่งที่
สูงขึ้น และถ้าได้โปรโมตก็จะมี ภาระหน้าที่สูงขึ้นเป็นเงาตามตัว
ต้องทุ่มเทให้บริษัทเกิน 100%
แต่รายได้ถูกประเมินแค่ปีละ 1 ครั้ง เราสองคนอยากมีรายได้
ที่เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดเและมีเวลาไปพร้อม ๆ กัน จึงเริ่ม
ทำธุรกิจ MGM ควบกับงานประจำ เราทำธุรกิจมา 3 ปี ก็ออก
จากงานประจำด้วยรายได้ค่าสายงาน 100,000 บาท/เดือน
ระบบ MGM ปิดจุดอ่อนเรื่องเพดานรายได้ ทำมากได้มาก
ตามผลงานหยุดทำ หรือทำน้อยลงก็ยังมีรายได้ รับรายได้เท่ากับ
ยอดที่เสียภาษีจริง ถึงแม้ในบางเดือนบริษัทจะลดค่าคอมมิชชั่น
แต่โครงสร้างตำแหน่งไม่เคยลด ปัจจุบันเรามีค่าสายงาน
เดือนธันวาคม 2562 เกือบ 7 แสนบาท

ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
จากวันนั้น ถึงวันนี้
ตอนเป็นพนักงานบริษัท เราได้ผลตอบแทนตามเวลา
ที่ทำงาน ซึ่งเวลาเป็นสิ่งที่จำกัด แน่นอนว่ารายได้ในแต่ละเดือน
ก็จำกัดตามเวลาทำงาน แต่ในระบบ MGM จายผลตอบแทน
ตามผลงาน และผลงานในระบบ MGM เป็นผลงานรวมทั้งทีม
ถึงแม้ว่าเราจะทำงานวันละ 1 ชั่วโมง/วัน แต่ถ้าเรามีทีมงาน
1,000 คน ช่วยกันทำงาน เราก็จะได้ผลงาน 1,000 ชั่วโมง/วัน
ปัจจุบันเรามีทั้งเวลา และรายได้ ไปพร้อม ๆ กัน
"ได้ทุกสิ่งด้วยสิ่งเดียว" มีความสมดุลในชีวิต ตามที่ฝันไว้แล้วครับ
ศรีกรุง
AWARDS
Srikrung Broker
2019
Srikrung 2020 Beyond Our Success คุณกาญจนะ และ คุณสุทรทิพย์ วิจิตร